วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การตรวจร่างกาย และ การซักประวัติทางเภสัชกรรม

                     บทบาทเดิมๆ ของเภสัชกร จะอยู่ที่การแนะนำการใช้ยา บางครั้ง สำหรับคนไข้หลายคนนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากๆ  ที่ต้องมารอรับยานานๆ  และ ต้องฟังอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ เหมือนกับการแนะนำการใช้ยาแบบทั่วไป ที่คนไข้หลายคนไม่ปลื้มเท่าไร  เพราะ เป็นข้อมูลที่อ่านได้จากฉลากยา   ผมเองทำงานจ่ายยามานานกว่า 19 ปี มีข้อเสนอดีๆ ที่อยากมาขายไอเดียให้พี่น้องเขียวมะกอกของเรา นั่น คือ การตรวจร่างกาย และ การซักประวัติทางเภสัชกรรม สองอย่างนี้อาจเป็นเรื่องใหม่ของเภสัชกรบางคน  แต่ผมเชื่อว่า สองกิจกรรมนี้มันมีข้อดีหลายอย่างในการทำงานของเภสัชกรอย่างพวกเราก็คือ

1 เภสัชกร จะดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นในสายตาของผู้ป่วย เมื่อมีการตรวจร่างกายอย่างเป็นระบบ
2 การซักประวัติผู้ป่วยทำให้ได้ข้อมูลด้านสุขภาพที่จำเป็นมากขึ้น และแสดงถึงความใส่ใจของเภสัชกร
3 การที่เราสัมผัสกายผู้ป่วยอย่างอ่อนโยน  นั้นผู้ป่วยจะรับรู้ได้จากการสัมผัสนั้น


ยกตัวอย่าง เมื่อผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดมารับยา เภสัชกรสามารถตรวจร่างกายผู้ป่วยดังนี้

1 ดูผื่นแพ้ยาทางผิวหนัง หรือ ภาวะตับอักเสบจากยา
2 ประเมินภาวะซีด โดยดูที่เล็บมือ และ เปลือกตาของผู้ป่วย
3 ดูการบวมของเท้า  การบวมของขา

นอกจากนี้ อาจมีการซักประวัติเพิ่มเติม เช่น
1 อาการเจ็บแน่นหน้าอก ของผู้ป่วย ความถี่ และช่วงเวลาที่มีอาการ
2 การหอบเหนื่อย ของผู้ป่วย เมื่อต้องมีกิจกรรมต่างๆ
3 สอบถามประวัติการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา  และ โรคอื่นๆ

          ซึ่ง การตรวจร่างกาย และ การซักประวัติทางเภสัชกรรม นั้น จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำงานมากขึ้น แต่ก็ได้ประโยชน์คุ้มค่า  ต่อผู้ป่วย และส่งเสริมบทบาทวิชาชีพเภสัชกรรมที่ดีมาก เนื่องจากข้อจำกัดของอัตรากำลังเภสัชกร ดังนั้นเราจำเป็นต้องเลือก ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นใน การตรวจร่างกาย และ การซักประวัติทางเภสัชกรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น